เรียน คุณ ระวี ที่นับถือ
      ขออภัยครับ...ช่วงนี้มี VIP มา เลยไม่ค่อยมีเวลาครับ..
      เรืองนี้มีข้อตกลงว่าด้วยการตรวจปล่อยสิ่งของส่งทางไปรษณีย์จากต่างประเทศระหว่าง
การสื่อสารแห่งประเทศไทยกับกรมศุลกากร เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2535 ซึ่งมีรายละเอียด
ปลีกย่อยมากครับ..แต่ก็ขอสรุปในบางประเด็นครับเช่น
      ข้อ 2.5.4.     สิ่งของส่งทางไปรษณีย์ที่ด่านศุลกากรคัดเลือกไปจ่ายให้ผู้รับเอง
หากด่านศุลกากรไม่อาจจ่ายให้ผู้รับได้ด้วยเหตุผลใดก็ตามภายในกำหนดเวลา 30 วัน
นับจากวันที่ได้รับมอบจากเจ้าหน้าที่การสื่อสารแห่งประเทศไทย ให้ส่งคืนโดยลง
รายการส่งคืนใน “บัญชีส่งคืนไปรษณีย์ภัณฑ์ที่ครบกำหนด 30 วัน” (แบบที่ 494)
พร้อมระบุการยกเลิกค่าภาษีอากร (ถ้ามี)ไว้ด้วย ในการส่งคืนให้มีการลงลายมือชื่อ
รับคืนไว้ใน “บัญชีส่งคืนไปรษณีย์ภัณฑ์ที่ครบกำหนด 30 วัน”  (แบบที่ 494) ทั้งนี้
ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรระบุสาเหตุการนำจ่ายไม่ได้เป็นภาษาอังกฤษไว้บนตัวห่อ เช่น
“RETURNED : REFUSED” (ในกรณีผู้รับปฏิเสธที่จะรับของ) หรือ
“RETURNED : UNCLAIMED” (ในกรณีผู้รับไม่ได้มาติดต่อขอรับของ) เป็นต้น
       แต่ต้องเป็นกรณีผู้ฝากส่งมิได้มีคำสั่งให้ละทิ้งในกรณีนำจ่ายไม่ได้นะครับ

       นอกจากนี้ก็มีข้อ 2.5.7. ที่จะให้ดำเนินการในลักษณะเป็น สิ่งของส่งทาง
ไปรษณีย์ตกค้าง หากสิ่งของที่นำจ่ายให้ผู้รับไม่ได้ และไม่สามารถส่งคืนผู้ฝากส่ง
ที่อยู่ต้นทางได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เมื่อครบกำหนดเวลาการเก็บรักษา
ตามระเบียบแล้วให้กรมศุลกากรและการสื่อสารแห่งประเทศไทยนำออกขาย
ทอดตลาดโดยให้แยกหน้าที่ในการดำเนินการ ดังนี้
     (1.) สิ่งของส่งทางไปรษณีย์ตกค้างที่ไม่เป็นของต้องอากร  ให้การสื่อสารฯ
ใช้อำนาจจำหน่ายตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
     (2.) สิ่งของส่งทางไปรษณีย์ตกค้างที่เป็นของต้องอากร ซึ่งไม่มีผู้ยื่น
หลักฐานขอรับของจากศุลกากรหรือที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขที่รับของไว้เพื่อ
นำจ่ายเมื่อนำเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 2 เดือน 15 วัน  แล้วยังนำจ่าย
แก่ผู้รับไม่ได้ให้แยกปฏิบัติดังนี้
     ก.      ในกรณีที่ไม่พึงส่งคืนแก่ผู้ฝากส่ง เช่น ผู้ฝากส่งมีคำสั่งให้ละทิ้ง
ให้ด่านศุลกากรจำหน่ายตามกฎหมายศุลกากรและระเบียบข้อบังคับของ
กรมศุลกากร
     ข.      ในกรณีที่พึงส่งคืนแก่ผู้ฝากส่ง   ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทย
จัดการส่งคืน  หากผลปรากฏเป็นที่ยุติว่าของรายใดมิได้ส่งคืนให้จำหน่าย
ตามข้อ (ก)
     
      ก็ขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ครับ
           1. กรณีมีใบแจ้งให้ไปรับของที่ด่านศุลกากร และต้องประเมินราคา
อากร ที่ด่านฯ ถ้าไม่มีผู้รับ เมื่อครบ 30 วัน ด่านศุลกากรนั้นๆ จะส่งคืนให้
การสื่อสารฯดำเนินการต่อไปตามข้อตกลง ซึ่งศุลกากรไม่มีหน้าที่ส่งพัสดุดังกล่าว
กลับคืนต่างประเทศ แต่เป็นหน้าที่ของการสื่อสารฯ สำหรับเรื่องระยะเวลา
อย่างน้อยก็ต้องรวมเวลาที่ให้ครบกำหนด 30 วัน (กรณีไม่มีผู้มารับของ)
กับเวลาดำเนินการระหว่างหน่วยงานด้วย และเวลาส่งกลับของดังกล่าว
ไปยังต้นทางด้วย
           2. กรณีมีการประเมินภาษีอากรแล้ว และมีใบแจ้งฯให้ไปชำระภาษี
ที่ไปรษณีย์ ถ้าไม่ไปรับของ เมื่อครบกำหนด 2 เดือน 15 วัน  นับแต่วัน
เปิดถุงเมล์ ปณ. แล้วยังนำจ่ายแก่ผู้รับไม่ได้ ถ้าไม่มีคำสั่งจากผู้ฝากส่งว่า
ให้ละทิ้ง  ให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยจัดการส่งคืนผู้ฝากต่างประเทศ
กรณีนี้ผู้ฝากต่างประเทศจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งกลับ
           สำหรับกรณี ไม่มีการส่งคืน ให้จำหน่ายตามระเบียบของกรมศุลกากร

                                     
           ด้วยความยินดีครับ...ถ้าไม่เข้าใจ..สามารถถามเพิ่มเติมได้ครับ
                                       กฤช
                               สนามบินทองกวาว

เจ้าของเว็บไซต์ แก้ไขเมื่อ 15/02/2011 - 08:42

...กรณีหลังนี้...ท่านไม่ต้องระบุอะไรบนกล่องครับ...แต่ยื่นคำร้องแจ้งเหตุผลและความประสงค์ได้ครับ..หน่วยงานที่รับเรื่องไว้ก็จะพิจารณาดำเนินการต่อไปครับ..

    เว้นแต่ของที่นำเข้านั้นเป็นของควบคุมตามกฎหมาย..หากเปิดตรวจแล้วก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
 
                                ด้วยความยินดีครับ
                                        กฤช
                                สนามบินทองกวาว